การออกแบบระบบไฟฟ้าสามารถทำการออกแบบได้หลายรูปแบบ ตามความสามารถ ความรู้และประสบการณ์ ของผู้ออกแบบแต่ละท่าน ซึ่งต้องอ้างอิงมาตรฐานต่างๆ รวมทั้งค่าใช้จ่ายต่างๆ ของการออกแบบและติดตั้งที่จะต้องมีผลตามมาหลังจากการออกแบบเสร็จสิ้นลง
11/13/2016
หลักเกณฑ์ในการออกแบบระบบไฟฟ้า
Posted By: ครูตุ้ง - Sunday, November 13, 2016
จำนวนผู้เยี่ยมชมหน้านี้       
            
การออกแบบระบบไฟฟ้าสามารถทำการออกแบบได้หลายรูปแบบ ตามความสามารถ ความรู้และประสบการณ์ ของผู้ออกแบบแต่ละท่าน ซึ่งต้องอ้างอิงมาตรฐานต่างๆ รวมทั้งค่าใช้จ่ายต่างๆ ของการออกแบบและติดตั้งที่จะต้องมีผลตามมาหลังจากการออกแบบเสร็จสิ้นลง
การออกแบบระบบไฟฟ้าสามารถทำการออกแบบได้หลายรูปแบบ ตามความสามารถ ความรู้และประสบการณ์ ของผู้ออกแบบแต่ละท่าน ซึ่งต้องอ้างอิงมาตรฐานต่างๆ รวมทั้งค่าใช้จ่ายต่างๆ ของการออกแบบและติดตั้งที่จะต้องมีผลตามมาหลังจากการออกแบบเสร็จสิ้นลง
            ในการออกแบบที่ดี จึงต้องคำนึงถึงหลักสำคัญต่างๆ ดังนี้
            1. ความปลอดภัย (Safety) 
                ความปลอดภัย นับเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกของการออกแบบระบบไฟฟ้า ดังนั้นในการออกแบบระบบไฟฟ้า จึงต้องคำนึงถึงกฎและมาตรฐานต่างๆ ที่ใช้บังคับ สำหรับประเทศไทย มาตรฐานที่ใช้ในการติดตั้งไฟฟ้า ให้ใช้มาตรฐานของวิศวกรรมสถาน แห่งประเทศไทย
            2. ความเชื่อมั่นของระบบ (Reliability)
            การออกแบบระบบไฟฟ้า  จะต้องมีความเชื่อมั่นของระบบการป้องกัน เมื่อเกิดการขัดข้องของระบบ จะต้องมีระบบตัดตอนที่ดี เช่น การใช้อุปกรณ์ที่ได้การรับรองมาตรฐาน
            3. ความง่ายในการดัดแปลง (Flexibility)
            การออกแบบระบบไฟฟ้าที่ดีจะต้องมีความยืดหยุ่นสามารถดัดแปลงเพิ่มเติมระบบในอนาคตได้โดยสะดวกและสามารถรองรับระบบในอนาคตได้โดยสะดวกโดยไม่เกิดปัญหาต่างๆ ตามมา เช่น การเพิ่มโหลดได้โดยไม่ต้องรื้อระบบใหม่
            4. ความประหยัด (Economy)
การออกแบบระบบไฟฟ้าที่ดี ต้องคำนึงถึงความประหยัดภายใต้เงื่อนไขของความปลอดภัย ความเชื่อมั่น และความง่ายในการดัดแปลง หมายถึงผู้ออกแบบต้องพยายามออกแบบให้ประหยัดแต่ต้องอยู่ภายใต้กฎและมาตรฐานต่างๆ ของการออกแบบ การใช้วัสดุ อุปกรณ์ที่มรมาตรฐาน ง่ายต่อการบำรุงรักษาและเปลี่ยนแปลง โดยปกติควรมีการบำรุงรักษาเพื่อป้องกันเหตุต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ อย่างน้อย ปีละ 2 ครั้ง ดังนั้นผู้ออกแบบระบบไฟฟ้าที่ดีจึงต้องเป็นผู้ที่มีความรู้และประสบการณ์ด้านการติดตั้งระบบไฟฟ้าเป็นอย่างดี จึงจะสามารถออกแบบระบบไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
5. แรงดันตก (Voltage Drop)
ในการออกแบบระบบไฟฟ้าภายในอาคาร สิ่งที่ต้องคำนึงถึงอีกอย่างหนึ่งคือ ค่าแรงดันไฟฟ้าตก เนื่องจากขนาดของโหลด และความยาวของสายป้อนและสายวงจรย่อยที่เดินไปยังอุปกรณ์ไฟฟ้า รวมทั้งโหลดในอนาคตที่จะเพิ่มด้วย
แรงดันตกมักสร้างความเสียหายแก่อุปกรณ์ไฟฟ้าเป็นอย่างมาก ตามมาตรฐานของไฟฟ้า และ NEC กำหนดแรงดันตกในช่วงของสายป้อนจะต้องไม่เกิน 3 % หากในส่วนของวงจรย่อยไม่เกิน 5 % 
การพิจารณาในเรื่องแรงดันตกมักจะนำมาพิจารณาในกรณีที่สายป้อนหรือสายเมน มีระยะการเดินสายที่ยาวๆ เท่านั้น
About ครูตุ้ง
 
We published High quality Blogger Templates with Awesome Design for blogspot lovers.The very first Blogger Templates Company where you will find Responsive Design Templates.
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
 
 
 
 
 
 
 
 

 
 
SOCIALIZE IT →